วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Steyr AUG

Steyr AUG


AUG A1

AUG A2

AUG A3







                                                                             


ก่อน จะเข้าเรื่องของAUG มารู้จักกับคำว่าBullpupกันก่อนดีกว่าครับ คำๆนี้หมายถึง ปืนที่มีรังเพลิงและชุดลูกเลื่อนอยู่หลังไกปืนครับสังเกตุง่ายๆเลยจะใส่แม็ก กาซีนไว้ด้านหลังด้ามจับครับ ทำให้ลำกล้องยาวมากครับ ลำกล้องจะยาวตลอดตัวปืนจนถึงช่องคัดปลอกทำให้มีความยาวตรงส่วนบนไกปืนด้วย เลยทำให้Bullpupได้เปลี่ยวปืนแบบเก่าในเรื่องความแม่นยำที่มากกว่าในความยาว ตลอดตัวปืนที่เท่ากัน








AUG เองเป็นปืนBullpupที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลกตัวนึงเหมือนกันครับผลิดโดยSteyr ประเทศออสเตรีย และด้วยความที่มันเป็นโพลิเมอร์กว่า60%จึงน้ำหนักเบาแต่ก็ไม่เบามากนะครับ 4กิโลกว่าๆ พร้อบบรรจุกระสุนเต็ม แต่ข้อเสียของAUGอยู่ที่ด้านน้ำหนักของมันจะเทไปอยู่ที่พานท้ายปืน ซึ่งทำให้มือข้างที่เหนี่ยวไกปืนเมื่อยได้ง่าย แต่ได้มีการพัฒนาเรื่อยมาจนทำให้น้ำหนักบาลานซ์กัน 50:50 ในรุ่นAUGA3
ด้วย การเป็นBuulpupนี่เองทำให้ลำกล้องของมันยาวได้ถึง509mmกับความยาวโดยรวม เพียง 800กว่าmm เท่านั้นเองทำให้ได้เปลียบเรื่องการคล่องตัวกับปืนแบบเก่า อย่างM16 ที่มีลำกล้องยาวเท่ากันอย่างM16 ที่ยาวถึง1เมตรหรือ1000mm แต่เห็นอย่างงี้ AUG เก่ามากเลยนะครับเพราะว่ารุ่นต้นแบบมันถูกสร้างในปี1977 และเป็นAUGแบบทุกวันนี้ในปี1978
ใช้ลูกกระสุนขนาด5.56x45Natoบรรจุใน แม็กกาซีนใส30นัด แถมด้วยการถอดประกอบปืนที่ไม่ต้องใช้สลักไดๆยึดไว้เลยแต่หมุนปลดล็อกนิดหน่อย ก็สามารถถอดชุดลำกล้องออกมาเปลี่ยนได้ด้วยความเร็วไม่ถึง1นาที
โหมดการ ยิงของAUGมีด้วยกัน3โหมด แต่ที่พิเศษกว่าปืนทั่วๆไปคือไม่มาสวิตชปรับโหมด มีแค่เซฟกับยิงที่ใช้การเลื่อนซ้ายกว่าเท่านั้น การเลือกยิงของมันอยู่ที่ระยะการลั่นไกครับ คือไกจะมี2จังหวะ ถ้ากดครึ่งไกจะยิงเซมิ ถ้าเหนี่ยวไกจนสุดจะยิงออโต้


ทำให้สามารถเลือกยิง ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียสมาธิไปปรับโหมด บางคนสงสัยว่าถ้าเหนี่ยวแรงเกินไปหละมันไม่ลั่นออโต้หรอ คำตอบคือไม่ครับ ครึ่งไกเซมินั้นมีน้ำหนักไกที่เบากว่าออโต้ครับคือเราเหนี่ยวไปแล้วมันจะไป ยุดอยู่ครื่องไกเองแล้วต้องออกแรงเพิ่มอีกนิดหน่ยถึงจะเข้าโหมดออโตครับ


AUGแบ่ง เป็ยรุ่นหลักๆได้3รุ่นคือ A1 A2 A3 ซึ่งA1-2แตกต่างกันเพียงแค่ A1มีสโคปที่เป็นหูหิ้วมาให้ในตัวทำให้สามารถยิงได้จากระยะไกลกว่าข้าศึกได้ แต่ข้อเสียของมันก็คือ มันเล็งได้ช้ามากเพราะรูสโคปค่อนข้างเล็กต้องเอาตาอยู่ห่างในระยะโฟกัสของ มันทำให้สู่ระยะประชิดลำบากจึงมีการพัฒนารุ่นA2ออกมาที่เป็นรางสำหรับใส่ ศูนย์เปิดหรือศูนย์เล็งReddotได้ทำให้ข้อเสียเปลียบเรื่องระยะในดารยิงไกล้ห ายไป และสุดท้ายรุ่นA3 มีการใส่รางทั้งชุดหน้าเพื่อใส่อุปกรณ์ต่างๆอย่างเช่นไฟฉาย เลเซอร์ ขาทรายได้อีกด้วย พร้อมทั้ง bolt carrier หรือตัวแขวนลูกเลื่อนเวลาลูกกระสุนหมดลูกเลื่อนจะค้างเพื่อเวลาใส่แม็กกาซีน ใหม่จะได้ไม่ต้องดึงคันรั้งเหมือนในเกมที่เคยๆเล่นกันมา แค่กดปุ่มที่อยู่ด้วนข้างตัวปืนเท่านั้น(ระบบนี้มีมานานแล้วตั้งแต่สมัย M16แล้วครับ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น